นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ กล่าวสุนทรพจน์ในการชุมนุมประจำปีเพื่อเรียกร้องการกลับมาของดินแดนทางเหนือในกรุงโตเกียวในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะให้คำมั่นว่าจะเจรจาอย่างเหนียวแน่นกับรัสเซียเพื่อการกลับมาของดินแดนทางเหนือ แต่ดูเหมือนว่ามอสโกจะยุ่งกับเรื่องอื่นๆ ในขณะนี้

คิชิดะ ที่การชุมนุมระดับชาติในโตเกียวเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ กล่าวว่าเขาจะดำเนินตามนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ในการแสวงหาการกลับมาของเกาะ 2 ใน 4 เกาะนอกฮอกไกโดซึ่งถูกกองทหารโซเวียตยึดครองเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

แต่ปัญหาในยูเครนไม่เพียงแต่ทำให้ความหวังในการเริ่มต้นการเจรจาญี่ปุ่น-รัสเซียในดินแดนทางเหนือในช่วงเช้าตรู่แต่ยังทำให้โตเกียวอยู่ในจุดที่แน่นแฟ้นระหว่างวอชิงตันและมอสโกว ในการประชุมออนไลน์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม คิชิดะยืนยันว่าญี่ปุ่นจะร่วมมือกับสหรัฐฯ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินในยูเครน

คิชิดะกล่าวว่าโตเกียวจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับวอชิงตัน พันธมิตรและพันธมิตรอื่นๆ รวมถึงประชาคมระหว่างประเทศ หากรัสเซียจะบุกยูเครน เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าการโจมตีทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนจะส่งผลให้กลุ่มประเทศ G-7 ดำเนินการร่วมกันในมาตรการต่างๆ เช่น การกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย

อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของญี่ปุ่นในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มิคาอิล กาลูซิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศญี่ปุ่น ได้เตือนโตเกียวว่าอย่าร่วมมือกับชาติตะวันตกในการคว่ำบาตรรัสเซีย

“มันจะขัดแย้งกับจิตวิญญาณของเพื่อนบ้านที่ดีหรือความสัมพันธ์รัสเซีย-ญี่ปุ่น” เขากล่าว

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับสำนักนายกรัฐมนตรียังแสดงความกังวลว่า “หากรัสเซียคว่ำบาตร ก๊าซธรรมชาติจะไม่มาจากรัสเซียไปยังญี่ปุ่น และราคาน้ำมันดิบก็จะสูงขึ้น” แม้ว่าการประชุมคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรจะยังอยู่ในช่วงการประชุม แต่คิชิดะก็สามารถหาเวลาเพื่อเข้าร่วม “การประชุมระดับชาติเพื่อเรียกร้องให้มีการกลับมาของดินแดนทางเหนือ” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์

“ภายใต้นโยบายในการแก้ไขปัญหาดินแดนและบรรลุข้อตกลงสันติภาพ และจากข้อตกลงต่างๆ ที่ทำขึ้นจนถึงตอนนี้ รวมถึงข้อตกลงในการประชุมสุดยอดญี่ปุ่น-รัสเซียปี 2018 ที่สิงคโปร์ ฉันจะรับช่วงต่อการแลกเปลี่ยนที่จัดขึ้นระหว่างผู้นำ ของญี่ปุ่นและรัสเซีย ตั้งแต่ปี 2018” คิชิดะกล่าวในที่ประชุม โดยอ่านจากบทความหนึ่ง

ในการประชุมสุดยอดเดือนพฤศจิกายน 2018 ในสิงคโปร์ Abe และประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ตกลงที่จะเร่งการเจรจาเพื่อสนธิสัญญาสันติภาพตามปฏิญญาร่วมปี 1956 ซึ่งสหภาพโซเวียตกล่าวว่าจะมอบเกาะชิโกตันและกลุ่มเกาะ Habomai หลังจาก สนธิสัญญาสันติภาพได้รับการลงนาม

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของญี่ปุ่นจากการแสวงหาการคืนเกาะทางเหนือทั้งสี่แห่งให้เหลือเพียงสองเกาะ ในการชุมนุมวันที่ 7 กุมภาพันธ์ คิชิดะได้ย้ำสำนวนที่เขาใช้ในการคุยโทรศัพท์กับปูตินเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว รวมทั้งในการกล่าวสุนทรพจน์นโยบายของเขาในเดือนมกราคม การแสดงออกดังกล่าวบ่งชี้ว่าเขาจะดำเนินตามจุดยืนของนโยบายของอาเบะในประเด็นดินแดนทางเหนือ

อย่างไรก็ตาม อดีตรัฐมนตรีคนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ โดยกล่าวว่า “เนื่องจากข้อตกลงปี 2018 ระหว่างอาเบะกับปูตินเป็นความล้มเหลวทางการทูตที่สำคัญ คิชิดะที่จะไม่อธิบายว่าทำไมเขาถึงรับช่วงต่อ”

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ photopaperplus.com